
เกี่ยวกับแคมเปญ
Family We-time Campaign 2025 จัดโดยสมาคมสถาบันครอบครัวแห่งภูมิภาคเอเชีย(CIFA)และได้รับการสนับสนุนจากโครงการ Jockey Club SMART Family-Link ซึ่งริเริ่มและสนับสนุนทุนโดย The Hong Kong Jockey Club Charities Trust
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเชิญชวนครอบครัวมารวมพลังกันผ่านการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในแคมเปญปีนี้ ผู้เข้าร่วมสามารถส่งภาพถ่ายครอบครัวหรือผลงานระบายสีที่มุ่งเน้นไปที่สองเมกะเทรนด์ที่ประกาศโดยองค์การสหประชาชาติ ได้แก่ เทคโนโลยีใหม่และความเป็นเมืองและการย้ายถิ่นฐาน (เมกะเทรนด์อื่นๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์)
แคมเปญนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสองแนวโน้มใหญ่ดังกล่าวและสนับสนุนให้ครอบครัวเผชิญหน้าและรับมือกับความท้าทายในเชิงบวกเพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของครอบครัว หัวข้ออาจรวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ การอยู่ร่วมกันในสังคม และการสร้างเครือข่ายทางสังคม ผลงานที่ได้รับเลือกจะถูกนำไปจัดแสดงในรูปแบบภาพปะติดที่สร้างสรรค์ในแกลเลอรีออนไลน์ของ Family We-time ผู้เข้าร่วมจะได้รับเกียรติบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นที่ระลึกหลังจากการส่งผลงาน
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเชิญชวนครอบครัวมารวมพลังกันผ่านการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในแคมเปญปีนี้ ผู้เข้าร่วมสามารถส่งภาพถ่ายครอบครัวหรือผลงานระบายสีที่มุ่งเน้นไปที่สองเมกะเทรนด์ที่ประกาศโดยองค์การสหประชาชาติ ได้แก่ เทคโนโลยีใหม่และความเป็นเมืองและการย้ายถิ่นฐาน (เมกะเทรนด์อื่นๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์)
แคมเปญนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสองแนวโน้มใหญ่ดังกล่าวและสนับสนุนให้ครอบครัวเผชิญหน้าและรับมือกับความท้าทายในเชิงบวกเพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของครอบครัว หัวข้ออาจรวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ การอยู่ร่วมกันในสังคม และการสร้างเครือข่ายทางสังคม ผลงานที่ได้รับเลือกจะถูกนำไปจัดแสดงในรูปแบบภาพปะติดที่สร้างสรรค์ในแกลเลอรีออนไลน์ของ Family We-time ผู้เข้าร่วมจะได้รับเกียรติบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นที่ระลึกหลังจากการส่งผลงาน

ข้อมูลการส่งผลงาน
ข้อมูลสำคัญ
เกณฑ์การเข้าร่วม
- เป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 2 รุ่นขึ้นไป
- ครอบครัวในทวีปเอเชียสามารถเข้าร่วมได้
- แต่ละท่านสามารถส่งผลงานได้สูงสุด 5 ชิ้น
กำหนดส่งผลงาน
- 14 กันยายน 2568, วันอาทิตย์
ประเภทผลงานที่ส่ง
- ภาพถ่ายครอบครัว และ/หรือ ผลงานศิลปะการระบายสี
ค่าสมัคร
- ไม่เสียค่าใช้จ่าย
วิธีการเข้าร่วม
สำหรับผลงานระบายสี
- เลือกและดาวน์โหลดภาพระบายสีที่กำหนดจากเว็บไซต์ของเรา พิมพ์ลงบนกระดาษขนาด A4 (297 x 210 มม.)
- สามารถใช้อุปกรณ์ระบายสีหรือสีประเภทใดก็ได้ ไม่อนุญาตให้ใช้การระบายสีด้วยคอมพิวเตอร์หรือการตกแต่งแบบสามมิติ เช่น สติกเกอร์ กากเพชร กระดาษย่น เป็นต้น
- สามารถวาดลวดลายเพิ่มเติมลงบนภาพระบายสีที่กำหนด เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ขององค์ประกอบในการสื่อถึงหัวข้อเทคโนโลยีใหม่หรือความเป็นเมืองและการย้ายถิ่นฐาน
สำหรับผลงานภาพถ่าย
- ผลงานต้องเป็นภาพถ่ายดิจิทัลต้นฉบับ ไม่อนุญาตให้มีการรีทัชด้วยคอมพิวเตอร์ใดๆ รวมถึงการเพิ่ม การลบ หรือการเปลี่ยนแปลงสีอย่างมีนัยสำคัญ
- ภาพถ่ายต้องสอดคล้องกับหัวข้อเทคโนโลยีใหม่หรือความเป็นเมืองและการย้ายถิ่นฐาน
แนวทางการส่งผลงาน:
- หลังจากลงทะเบียนแล้ว ให้ส่งภาพถ่ายดิจิทัลต้นฉบับหรือผลงานระบายสีในรูปแบบไฟล์ JPEG JPG หรือ PNG ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา
- สามารถส่งผลงานได้สูงสุด 5 ชิ้น ขนาดไฟล์สูงสุดสำหรับภาพถ่ายหรือผลงานระบายสีแต่ละชิ้นที่อัปโหลดคือ 10 MB
ข้อกำหนดและเงื่อนไข
- ผลงานทั้งหมดจะต้องส่งผ่านพอร์ทัลลงทะเบียนออนไลน์ "Family We-time" เท่านั้น โดยจะรับเฉพาะไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ JPEG, JPG หรือ PNG เมื่อส่งผลงานแล้ว จะไม่สามารถแก้ไข แลกเปลี่ยน หรือขอคืนได้ ผลงานที่ส่งจะต้องไม่เคยเข้าร่วมการประกวดหรือกิจกรรมอื่นใดมาก่อน
- ผลงานที่ส่งจะต้องเป็นผลงานต้นฉบับและไม่ละเมิดสิทธิ์ของบุคคลที่สาม รวมถึงสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิ์ในการรักษาความลับ หรือสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัว ผู้ที่ละเมิดกฎจะถูกตัดสิทธิ์จากการเข้าร่วม
- หากผลงานที่ส่งขัดต่อกฎหมายใดๆ ผู้เข้าร่วมจะต้องรับผิดชอบทางกฎหมายทั้งหมด และผู้จัดงานจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
- ผู้เข้าร่วมต้องรับรองว่าผลงานที่ส่งไม่มีเนื้อหาลามกอนาจาร รุนแรง ข้อความเชิงลบ หรือองค์ประกอบการโฆษณาเชิงพาณิชย์ ศาสนา หรือการเมือง และไม่ก่อให้เกิดการหมิ่นประมาท อนาจาร ก้าวร้าว สร้างความเข้าใจผิดทางเชื้อชาติ หรือประเด็นการเลือกปฏิบัติ
- ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมเพิ่มข้อความ สัญลักษณ์ หรือรูปภาพที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ลายเซ็น ขอบภาพ และลายน้ำ เป็นต้น ลงในผลงานที่ส่ง
- ลิขสิทธิ์ของผลงานที่ส่งทั้งหมดเป็นของผู้จัดงาน ผู้จัดงานขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกผลงานที่ส่งและนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประชาสัมพันธ์ การจัดแสดง และการพิมพ์ใดๆ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากผู้เข้าร่วมและไม่ต้องชำระค่าลิขสิทธิ์และความรับผิดชอบทางกฎหมายใดๆ
- ผู้เข้าร่วมตกลงที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการติดต่อในกิจกรรมและการเผยแพร่ข้อมูลกิจกรรมของผู้จัดงาน หากผู้เข้าร่วมต้องการให้ผู้จัดงานลบข้อมูลส่วนบุคคลหลังสิ้นสุดกิจกรรม จะต้องแจ้งให้ผู้จัดงานทราบทางอีเมล
- ผลการคัดเลือกผลงานเพื่อจัดทำเป็นภาพปะติด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จัดงาน และผู้เข้าร่วมจะไม่มีสิทธิ์คัดค้าน คำตัดสินของผู้จัดงานถือเป็นที่สิ้นสุด
- ผู้เข้าร่วมต้องทำความเข้าใจกฎของกิจกรรมอย่างชัดเจน และการส่งผลงานหมายความว่าผู้เข้าร่วมได้ตกลงที่จะปฏิบัติตามและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดของกิจกรรมนี้ ผู้เข้าร่วมต้องยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดและรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของตนเอง ผู้จัดงานจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้หรือในระหว่างการจัดกิจกรรม
- ผู้จัดงานขอสงวนสิทธิ์ในการตีความและแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ถือเป็นที่สิ้นสุด

โครงการ Jockey Club SMART Family-Link
The Hong Kong Jockey Club Charities Trust อนุมัติเงินประมาณ 330 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อริเริ่ม "โครงการ Jockey Club SMART Family-Link" (JCSFL) โครงการนี้เปิดตัวในปี พ.ศ. 2561 โดยมีเป้าหมายในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขั้นสูงเพื่อสนับสนุนการส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งจัดหาโดยศูนย์บริการครอบครัวแบบบูรณาการและศูนย์บริการแบบบูรณาการที่ดำเนินการโดยองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ทั้ง 26 แห่ง เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของครอบครัว และเพิ่มขีดความสามารถของภาคส่วนในการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลสำหรับนวัตกรรมการบริการครอบครัวที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการบริการที่เกิดขึ้นใหม่ได้
โครงการนี้รวบรวมความพยายามและความร่วมมือจากหลากหลายสาขาวิชาระหว่างองค์กรพัฒนาเอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสำหรับภาคสวัสดิการ องค์ประกอบหลักประกอบด้วยการเพิ่มสมรรถนะของฟังก์ชัน i-Connect การพัฒนาบริการในรูปแบบผสมผสาน การเสริมสร้างขีดความสามารถทางดิจิทัล และการดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลจากข้อมูลการบริการทั่วทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงและการเสริมสมรรถนะการบริการ
พันธมิตรโครงการประกอบด้วย มหาวิทยาลัยฮ่องกง (ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และภาควิชาสังคมสงเคราะห์และบริหารสังคม); มหาวิทยาลัยแบ๊บติสฮ่องกง (ภาควิชาสังคมสงเคราะห์); คาริตัส - ฮ่องกง; สมาคมสวัสดิการครอบครัวฮ่องกง; องค์กรบริการคริสเตียนฮ่องกง; องค์กรบริการสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ - สาขาฮ่องกง; ศูนย์บริการครอบครัวคริสเตียน; สภาที่ปรึกษาการสมรสคาทอลิกแห่งฮ่องกง; องค์กรบริการเด็กและเยาวชนฮ่องกง; องค์กรสังคมสงเคราะห์เซนต์เจมส์; กลุ่มโรงพยาบาลต่งหวา; สภาสวัสดิการเซิ่งกงฮุยแห่งฮ่องกง และ สภาให้คำปรึกษาและปฏิบัติการเพื่อชุมชน
สำหรับรายละเอียด กรุณาเยี่ยมชม www.jcsmartfamilylink.hk
โครงการนี้รวบรวมความพยายามและความร่วมมือจากหลากหลายสาขาวิชาระหว่างองค์กรพัฒนาเอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสำหรับภาคสวัสดิการ องค์ประกอบหลักประกอบด้วยการเพิ่มสมรรถนะของฟังก์ชัน i-Connect การพัฒนาบริการในรูปแบบผสมผสาน การเสริมสร้างขีดความสามารถทางดิจิทัล และการดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลจากข้อมูลการบริการทั่วทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงและการเสริมสมรรถนะการบริการ
พันธมิตรโครงการประกอบด้วย มหาวิทยาลัยฮ่องกง (ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และภาควิชาสังคมสงเคราะห์และบริหารสังคม); มหาวิทยาลัยแบ๊บติสฮ่องกง (ภาควิชาสังคมสงเคราะห์); คาริตัส - ฮ่องกง; สมาคมสวัสดิการครอบครัวฮ่องกง; องค์กรบริการคริสเตียนฮ่องกง; องค์กรบริการสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ - สาขาฮ่องกง; ศูนย์บริการครอบครัวคริสเตียน; สภาที่ปรึกษาการสมรสคาทอลิกแห่งฮ่องกง; องค์กรบริการเด็กและเยาวชนฮ่องกง; องค์กรสังคมสงเคราะห์เซนต์เจมส์; กลุ่มโรงพยาบาลต่งหวา; สภาสวัสดิการเซิ่งกงฮุยแห่งฮ่องกง และ สภาให้คำปรึกษาและปฏิบัติการเพื่อชุมชน
สำหรับรายละเอียด กรุณาเยี่ยมชม www.jcsmartfamilylink.hk

The Hong Kong Jockey Club Charities Trust
The Hong Kong Jockey Club สืบสานประเพณีอันยาวนานในการบริจาคเพื่อการกุศลย้อนไปถึงปี พ.ศ. 2458 แต่ในช่วงทศวรรษที่ 1950 (พ.ศ. 2493-2502) ซึ่งเป็นช่วงที่ฮ่องกงกำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับการฟื้นฟูหลังสงครามและการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพจำนวนมหาศาล บทบาทนี้จึงได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานขององค์กร ในปี พ.ศ. 2498 Club ได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการที่จะอุทิศเงินส่วนเกินในแต่ละปีให้กับโครงการการกุศลและชุมชน และในปี พ.ศ. 2502 บริษัทที่แยกออกมาในชื่อ Hong Kong Jockey Club (Charities) Ltd ก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการเงินบริจาค ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นในชื่อ The Hong Kong Jockey Club Charities Trust เพื่อสะท้อนถึงลักษณะ ขนาด และขอบเขตของการบริจาคที่เปลี่ยนแปลงไป The Charities Trust เป็นหนึ่งในผู้บริจาคเพื่อการกุศลสิบอันดับแรกของโลก
เงินบริจาคจำนวนมหาศาลของ Trust ที่มอบให้กับชุมชนนั้นเกิดขึ้นได้จากรูปแบบธุรกิจแบบบูรณาการที่เป็นเอกลักษณ์ของ Club ซึ่งประกอบด้วยการแข่งม้าและความบันเทิงในสนามม้า สโมสรสมาชิก การพนันกีฬาและลอตเตอรี่อย่างรับผิดชอบ และการกุศลและการมีส่วนร่วมกับชุมชน ประมาณร้อยละ 90 ของกำไรจากการดำเนินงานประจำปีหลังหักภาษีของ Club จะถูกบริจาคให้กับ Trust ซึ่งช่วยให้ Trust มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชน
จากการทำงานร่วมกับรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน(NGOs) มูลนิธิการกุศล และพันธมิตรในชุมชน Trust มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนในฮ่องกง ในฐานะองค์กรการกุศล Trust ได้ระบุและริเริ่มโครงการต่างๆ ในเชิงรุกที่ตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของชุมชนและสังคม
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของฮ่องกง จุดมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของ Trust ในช่วงสามปีระหว่างปี พ.ศ. 2565-2568 ประกอบด้วย 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ การมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพและการดูแลผู้สูงอายุ การพัฒนาเยาวชนและการบรรเทาความยากจน ชุมชนที่มีสุขภาพดี การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและภาคส่วนต่าง ๆ และ กีฬาและวัฒนธรรม ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน Trust กำลังบ่มเพาะด้านความยั่งยืนให้เป็นลำดับความสำคัญที่หกในการให้ทุนสนับสนุน
เงินบริจาคจำนวนมหาศาลของ Trust ที่มอบให้กับชุมชนนั้นเกิดขึ้นได้จากรูปแบบธุรกิจแบบบูรณาการที่เป็นเอกลักษณ์ของ Club ซึ่งประกอบด้วยการแข่งม้าและความบันเทิงในสนามม้า สโมสรสมาชิก การพนันกีฬาและลอตเตอรี่อย่างรับผิดชอบ และการกุศลและการมีส่วนร่วมกับชุมชน ประมาณร้อยละ 90 ของกำไรจากการดำเนินงานประจำปีหลังหักภาษีของ Club จะถูกบริจาคให้กับ Trust ซึ่งช่วยให้ Trust มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชน
จากการทำงานร่วมกับรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน(NGOs) มูลนิธิการกุศล และพันธมิตรในชุมชน Trust มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนในฮ่องกง ในฐานะองค์กรการกุศล Trust ได้ระบุและริเริ่มโครงการต่างๆ ในเชิงรุกที่ตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของชุมชนและสังคม
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของฮ่องกง จุดมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของ Trust ในช่วงสามปีระหว่างปี พ.ศ. 2565-2568 ประกอบด้วย 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ การมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพและการดูแลผู้สูงอายุ การพัฒนาเยาวชนและการบรรเทาความยากจน ชุมชนที่มีสุขภาพดี การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและภาคส่วนต่าง ๆ และ กีฬาและวัฒนธรรม ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน Trust กำลังบ่มเพาะด้านความยั่งยืนให้เป็นลำดับความสำคัญที่หกในการให้ทุนสนับสนุน

CIFA
CIFA ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรภายใต้กฎหมายของฮ่องกง เป็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่เป็นเวทีระดับภูมิภาคสำหรับสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างองค์กรและผู้เชี่ยวชาญที่มีพันธกิจร่วมกันในการ "หลอมรวมภูมิปัญญาแห่งวิชาชีพเพื่อสุขภาวะของครอบครัว" หน้าที่ขององค์กรคือการสนับสนุนและส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันในโครงการวิจัยและการฝึกอบรม และเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ทางคลินิกและการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับครอบครัวที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคเอเชีย
พิธีเปิดและการประชุมสัมมนาครั้งปฐมฤกษ์ของ CIFA จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงในปี พ.ศ. 2551 ตามด้วยการประชุมสัมมนาระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นทุกสองปีใน โตเกียว สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ โซล และ ไต้หวัน ซึ่งแต่ละครั้งดึงดูดผู้เข้าร่วมโดยเฉลี่ยกว่า 400 คน กิจกรรมหลักอื่นๆ ได้แก่ การวิจัยข้ามชาติ กิจกรรมการฝึกอบรม รางวัลเกียรติคุณระดับเอเชียด้านการส่งเสริมสุขภาวะครอบครัว ( โครงการ3A ) กิจกรรมส่งเสริมและระดมทุน และการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์และ CIFA-NET ซึ่งเป็นจดหมายข่าวของสมาคม
หลังจากการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง CIFA และ องค์การสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2557 ผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติได้เข้าร่วมกิจกรรมของ CIFA หลายครั้งรวมถึงการประชุมสัมมนาระดับภูมิภาคในปี พ.ศ. 2559 ที่เกาหลี โครงการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ โครงการ 3A และคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อความปรองดองในครอบครัวในปี พ.ศ. 2560 และการประชุมสุดยอดครอบครัวแห่งเอเชียในปี พ.ศ. 2561 ที่ฮ่องกง ในที่สุด CIFA ก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์การสหประชาชาติ โดยได้รับสถานะที่ปรึกษาพิเศษในปี พ.ศ. 2564 ซึ่งทำให้ CIFA ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันมากขึ้นในความพยายามระดับโลกเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของครอบครัว โดยเฉพาะจากมุมมองของเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีบทบาทและมีความสำคัญมากขึ้นในกิจการระดับโลก
CIFA มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการประสานงานและจัดกิจกรรมในเอเชียเพื่อขานรับคำเชิญจากองค์การสหประชาชาติในการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ปีสากลแห่งครอบครัว ซึ่งรวมถึงการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์เกี่ยวกับการสูงวัยของประชากรในเอเชีย Family We-Time Campaign และการประชุมสุดยอดครอบครัวแห่งเอเชียปี 2567 และอื่นๆ ซึ่งได้รับการตอบรับและการสนับสนุนในเชิงบวกอย่างมากจากองค์การสหประชาชาติ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม https://www.cifa-net.org/
พิธีเปิดและการประชุมสัมมนาครั้งปฐมฤกษ์ของ CIFA จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงในปี พ.ศ. 2551 ตามด้วยการประชุมสัมมนาระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นทุกสองปีใน โตเกียว สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ โซล และ ไต้หวัน ซึ่งแต่ละครั้งดึงดูดผู้เข้าร่วมโดยเฉลี่ยกว่า 400 คน กิจกรรมหลักอื่นๆ ได้แก่ การวิจัยข้ามชาติ กิจกรรมการฝึกอบรม รางวัลเกียรติคุณระดับเอเชียด้านการส่งเสริมสุขภาวะครอบครัว ( โครงการ3A ) กิจกรรมส่งเสริมและระดมทุน และการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์และ CIFA-NET ซึ่งเป็นจดหมายข่าวของสมาคม
หลังจากการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง CIFA และ องค์การสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2557 ผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติได้เข้าร่วมกิจกรรมของ CIFA หลายครั้งรวมถึงการประชุมสัมมนาระดับภูมิภาคในปี พ.ศ. 2559 ที่เกาหลี โครงการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ โครงการ 3A และคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อความปรองดองในครอบครัวในปี พ.ศ. 2560 และการประชุมสุดยอดครอบครัวแห่งเอเชียในปี พ.ศ. 2561 ที่ฮ่องกง ในที่สุด CIFA ก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์การสหประชาชาติ โดยได้รับสถานะที่ปรึกษาพิเศษในปี พ.ศ. 2564 ซึ่งทำให้ CIFA ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันมากขึ้นในความพยายามระดับโลกเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของครอบครัว โดยเฉพาะจากมุมมองของเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีบทบาทและมีความสำคัญมากขึ้นในกิจการระดับโลก
CIFA มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการประสานงานและจัดกิจกรรมในเอเชียเพื่อขานรับคำเชิญจากองค์การสหประชาชาติในการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ปีสากลแห่งครอบครัว ซึ่งรวมถึงการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์เกี่ยวกับการสูงวัยของประชากรในเอเชีย Family We-Time Campaign และการประชุมสุดยอดครอบครัวแห่งเอเชียปี 2567 และอื่นๆ ซึ่งได้รับการตอบรับและการสนับสนุนในเชิงบวกอย่างมากจากองค์การสหประชาชาติ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม https://www.cifa-net.org/
ผู้สนับสนุน
Family We-time Campaign 2025 รวมถึงโครงการอื่นๆ ภายใต้ "Jockey Club Professional Development Initiatives on Family Services" ที่จัดโดยสมาคมสถาบันครอบครัวแห่งภูมิภาคเอเชีย(CIFA) ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ Jockey Club SMART Family-Link ซึ่งริเริ่มและสนับสนุนทุนโดย The Hong Kong Jockey Club Charities Trust